เงินตาไม้: ศิลปะแห่งโลหะผสม ความงามที่ไม่ซ้ำใคร กับนวัตกรรมไทยสู่เวทีโลก

เงินตาไม้

เงินตาไม้คืออะไร?

“เงินตาไม้” (Wood Grain Silver) หรือที่บางครั้งเรียกว่า Mokume Gane (木目金) คือศิลปะแห่งการสร้างลวดลายโลหะที่เปรียบได้กับ “วงปีไม้” ซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในแต่ละชิ้น จุดกำเนิดของเทคนิคนี้ย้อนกลับไปยัง ยุคปลายเมจิของญี่ปุ่น โดยเป็นเทคนิคดั้งเดิมของช่างตีดาบญี่ปุ่น ใช้ในการตกแต่ง ดาบซามูไร โดยการซ้อนชั้นโลหะสองชนิด (เช่น เงินและทองแดง) ให้แน่นเหมือน “ขนมชั้น” จากนั้นจึง ขุด เจาะ บิด หรือบากเนื้อโลหะ เพื่อเผยลวดลายที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งคล้ายกับลายไม้ธรรมชาติที่งดงาม

“เงินตาไม้” ในแบบฉบับไทย คือการนำเทคนิคนี้มาผสมผสานกับความประณีตของงานฝีมือไทยและแนวคิดศิลปะร่วมสมัย ภายใต้แรงบันดาลใจของ พ้อง สมิทธี (Ponksmithi) ช่างฝีมือไทยผู้บุกเบิกการพัฒนาเทคนิคนี้จนกลายเป็นนวัตกรรมเฉพาะตัว ด้วยการพัฒนาลวดลาย การคำนวณ และการควบคุมคุณภาพด้วยวิทยาศาสตร์ ทำให้ “เงินตาไม้” กลายเป็นศิลปะแห่งโลหะที่เป็นเอกลักษณ์และไม่ซ้ำใครบนโลกใบนี้

เทคนิคการสร้างเงินตาไม้: จากดาบซามูไร สู่เครื่องประดับร่วมสมัย

การสร้างเงินตาไม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ละชิ้นงานต้องผ่านกระบวนการกว่า 20 ขั้นตอน โดยมีขั้นตอนสำคัญดังนี้:

  • การอบโลหะหลายชั้น: นำโลหะสองชนิด เช่น เงินแท้ (Silver) และ พิงค์คอปเปอร์ (Pink Copper) มาเรียงสลับกัน 20–30 ชั้น แล้วทำการอบจนเนื้อโลหะยึดติดกันแน่น

  • การขุดและบาก: เมื่อได้แผ่นโลหะชั้นแล้ว จึงทำการ ขุด เจาะ บิด เพื่อสร้างลวดลายเฉพาะตัว ซึ่งไม่มีชิ้นใดเหมือนกันเลย

  • การขัดเงาและเก็บรายละเอียด: ใช้ทักษะงานช่างฝีมือไทยเก็บรายละเอียดอย่างประณีต เพื่อเผยลวดลาย “วงปีไม้” ที่ชัดเจนและสวยงามที่สุด

  • การตรวจสอบคุณภาพด้วยวิทยาศาสตร์: มีการตรวจสอบความถ่วงจำเพาะในแต่ละขั้นตอน เพื่อประกันว่าลวดลายที่เกิดขึ้นมีความคมชัด แข็งแรง และสวยงามตามมาตรฐาน


🌸 ความเป็นมาในไทย: จากเทคนิคญี่ปุ่น สู่ศิลปะแห่งรัตนโกสินทร์

เทคนิค Mokume Gane เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากขั้นตอนซับซ้อน ราคาสูง และการสร้างลวดลายต้องใช้ทักษะสูงมาก ทำให้ศิลปินไทยหลายคนไม่สามารถพัฒนางานได้เต็มที่

จนกระทั่ง ปี 2558 พ้อง สมิทธี (Ponksmithi) ได้นำเทคนิคนี้มาพัฒนาใหม่ ผ่านการศึกษาเชิงลึก ทั้งการพยากรณ์ลวดลาย การคำนวณขนาดของแผ่นโมกุเม่ กาเน่ และการผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เช่น การหาค่าความถ่วงจำเพาะในกระบวนการผลิต จนสามารถสร้างเครื่องประดับที่มีลวดลายเฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร และมีความคมชัดสูงกว่าเดิมอย่างมาก


🪄 เสน่ห์ของเงินตาไม้: ศิลปะที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิต

เงินตาไม้

เงินตาไม้ แต่ละชิ้นคือลวดลายที่เกิดจาก “ธรรมชาติภายในโลหะ” ผ่านฝีมือของมนุษย์ ลวดลายเหล่านี้ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ยังแฝงไปด้วย พลังงานและเรื่องราว ที่บอกเล่าความอุตสาหะ ความประณีต และความลึกซึ้งของศิลปะ

  • ลวดลายแต่ละชิ้นไม่ซ้ำกันเลย เสมือนร่องรอยชีวิตในธรรมชาติ

  • เทคนิคดั้งเดิมบวกนวัตกรรมไทย ผสมผสานความรู้เชิงวิทยาศาสตร์กับศิลปะดั้งเดิม

  • ศิลปะแห่งยุครัตนโกสินทร์ ที่ยกระดับงานฝีมือไทยสู่เวทีโลก


💍 เงินตาไม้กับเครื่องประดับไทย: ความหรูหราเหนือกาลเวลา

ผลงานเงินตาไม้ได้รับการพัฒนาสู่เครื่องประดับร่วมสมัยหลากหลายรูปแบบ เช่น:

  • แหวนเงินตาไม้ (Mokume Gane Rings)

  • กำไลข้อมือ (Bracelets)

  • จี้สร้อยคอ (Pendants)

  • ต่างหู และปิ่นปักผม (Earrings & Hairpins)

ทุกชิ้นงานมีความละเอียด ละเมียดละไม ผสมผสานศิลปะแบบไทยเข้ากับเทคนิคญี่ปุ่นอย่างลงตัว


🌏 ศิลปะไทยสู่เวทีโลก: จากเงินตาไม้สู่แรงบันดาลใจใหม่

เงินตาไม้ ไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่คือ นวัตกรรมและศิลปะร่วมสมัย ที่ผลักดันงานคราฟท์ไทยไปสู่ตลาดโลก ด้วยความพยายามของ พ้อง สมิทธี และการร่วมมือกับสถาบันระดับชาติ เช่น:

  • GIT (สถาบันวิจัยอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ)

  • มศว.

  • TCDC

  • Designer’s Room

  • สมาคมช่างทองไทย

ผลงานเงินตาไม้จึงเป็นมากกว่างานฝีมือ แต่คือ แรงบันดาลใจใหม่ ให้ช่างฝีมือไทยรุ่นใหม่ และเป็นการยกระดับวงการเครื่องประดับไทยให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน


🌟 สรุป: เงินตาไม้ – ศิลปะแห่งกาลเวลา

เงินตาไม้ คือศิลปะที่ผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านเทคนิคโบราณและนวัตกรรมใหม่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความละเอียดอ่อน และความพยายามของช่างฝีมือไทยที่ไม่หยุดพัฒนา

ในยุค 2025 ที่โลกให้ความสำคัญกับงานฝีมือ งานศิลปะที่มีเรื่องราว และความยั่งยืน เงินตาไม้ จึงไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่คือ ศิลปะแห่งชีวิต ที่ควรค่าแก่การสะสม เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นสมบัติที่สืบทอดต่อไป